พระผงเตารีดลป.หลวงเหรียญลพ.สี่เข่าวัดศาลาครืนเหรียญรุ่น๓ครูบาชัยวงศ์พระกริ่งนางพญางิ้วดำ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Jumbo A, 17 สิงหาคม 2022.

  1. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,380
    ค่าพลัง:
    +21,404
    FB_IMG_1752209666586.jpg FB_IMG_1752209775744.jpg

    พระกริ่งนางพญางิ้วดำวัดใหม่บ้านดอน ปี๒๕๒๑ เนื้อนวะโลหะในหลวงร.๙เสด็จเททองและยกช่อฟ้าพระอุโบสถ
    หลวงพ่อคูณปริสุทโธ
    หลวงพ่อผางวัดอุดมคงคาคีรีเขต และครูบาอาจารย์ท่านอื่นๆอีกหลายรูปปลุกเสก
    “ เมื่อกูตายแล้วกูกลัวกูกลัวว่าศพกูนี่แหละจะเป็นภาระยุ่งยากของลูกหลาน จะเกิดความสับสนวุ่นวาย เพราะคนที่มาหากู ฝากตัวเป็นศิษย์มีมากมายหลายประเภท มีทั้งดีเลว ละโมภ โลภมาก กูจึงขอให้โรงพยาบาลมารับเอาศพไปภายใน 24 ชั่วโมง และหลังจากสิ้นสุดการศึกษาค้นคว้าแล้วก็จัดพิธีบำเพ็ญกุศลเช่นเดียวกับศพของอาจารย์ใหญ่..
    กูขออย่างเดียวให้ทุกคนเชื่อว่า บุญมีจริง บาปมีจริง ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว”
    หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ
    วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    ให้บูชา 350 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20250710_235750.jpg IMG_20250710_235819.jpg IMG_20250710_235954.jpg IMG_20250710_235702.jpg
     
  2. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,380
    ค่าพลัง:
    +21,404
    FB_IMG_1752236315148.jpg

    ประวัติหลวงพ่อมหาโพธิ์ วัดคลองมอญ
    วัดคลองมอญ (สุวรรณโคตมาราม) อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท
    หลวงพ่อมหาโพธิ์ ญาณสังวโร เกิดเมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2463 ตรงกับทางจันทรคติ วันอังคาร แรม 13 ค่ำ เดือน 11 ปีวอก จ.ศ. 1282 ยามเด็กนอนสมัยนั้น (ประมาณเวลา 19.20 น.) ลัคนาศรี พฤษภ เสวยฤกษ์ที่ 5 มฤคสิระ ประกอบด้วย เทศาตรี แห่งฤกษ์ นามเดิม นายโพธิ์ จั่นเที่ยง โยมบิดาชื่อ นายวอน จั่นเที่ยง โยมมารดาชื่อ นางทองสุข จั่นเที่ยง มีพี่น้องด้วยกัน 6 คน หลวงพ่อเป็นลูกคนที่ 4 บ้านเกิด ณ บ้านหนองพญา ต.มะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท
    หลวงพ่อท่านได้เล่าว่า ตอนเด็ก ๆ ไม่สามารถอยู่บ้านได้ พระใบฎีกาบุญยัง เป็นทั้งอาจารย์และหลวงน้าของท่าน ได้นำเอาท่านมาเลี้ยงไว้ที่วัดหนองน้อย ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านท่านประมาณ 3 กิโลเมตร ต่อมาหลวงพ่อบุญยังได้พาท่านมาฝากบวชเรียน พระปริยัติธรรมที่วัดอรุณอัมรินทร์ (วัดโบสถ์น้อย) บางกอกน้อยธนบุรี ได้จำพรรษาบวชเรียนเป็นสามเณรโพธิ์ ณ ที่วัดอรุณอัมรินทร์ และต้องเดินไปเรียนนักธรรมและบาลีปเรียญสาม ขณะจำพรรษาอยู่นี้หลวงพ่อบุญยังได้มาเยี่ยมเยียนอยู่ เเสมอและก็ได้ถ่ายทอดวิชาต่าง ๆ ให้ สามเณรโธิ์ท่านก็จะแปรพระคาถาต่าง ๆ เป็นใจความบ้าง ไม่ได้ใจความบ้าง ดูแล้วไม่น่าจะมีอะไร หลวงพ่อบุญยังบอกว่า คุณมหาโพธิ์อย่าไปแปล วิชาก็คือวิชาแปลภาษาบาลีก็แปลไป วิชาอาคมต่าง ๆ ครูบาอาจารย์ถ่ายทอดกันมามิได้ให้แปลไม่สมควรแปล เพราะเป็นหลักของวิชาในการใชคาถาอาคม ด้วยจิตเป็นเครื่องกำหนด ดังนั้นสามเณรโพธิ์จึงไม่คิดแปลคาถาอีกต่อไป เมื่อได้เข้าใจในหลักวิชาที่หลวงพ่อบุญยังได้ถ่ายทอด ให้
    เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณื สามเณรมหาโพธิ์ ก็ได้บวชอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ที่วัดอรุณอัมรินทร์ บางกอกน้อย ธนบุรี โดยโยมบิดาและมารดาได้เดินทางจาก อ.วัดสิงห์ มายังกรุงเทพฯ เพื่ออุปสมบทสามเณรมหาโพธิ์ด้วความปลื้อมปิติยินดียิ ่งนัก ต่อมาอีก 1 ปี ท่านได้กลับสมาอยู่ที่ วัดหนองน้อย จ.ชัยนาท และขอลาสิกขาบทกับหลวงพ่อบุญยัง แต่หลวงพ่อบุญยังไม่สึกให้ ท่านให้ไปสึกกับหลวงพ่อปลื้ม(น้องชายหลวงปู่ศุข) ณ วัดปลากคลองมะขามเฒ่า หลวงพ่อปลื้มก็สึกพระให้ตามความประสงค์
    ชีวิตทหาร
    หลังจากที่หลวงพ่อมหาโพธิ์ได้ลาสิกขาบทจากพระภิกษุใน ปี พ.ศ. 2484 อายุท่านครบ 21 ปีบริบูรณ์ ตามหน้าที่ของชายไทยทุกคนต้องรับใช้ชาติเพื่อคัดเลือ กเกณฑ์ทหารเป็นเวลา 2 ปี ท่านได้กราบลาหลวงพ่อบุญยัง ซี่งหลวงพ่อบุญยังได้อวยพรให้ท่าน ท่านมหาโพธิ์ไปคราวนี้จะได้อยู่อย่างสบายๆ พร้อมกับได้มอบผ้ายันต์ขาวแดงลงด้วยยันต์นะหน้าทอง 1 ผืน และยัต์ปีโยเล็ก 1 ผืน ให้พกติดตัวไป ผ้ายันต์ 2 ผืนนี้ดีทางเมตตามหานิยมเป็นที่รัดใคร่ของผู้ใหญ่ดุจ ลูกในอุทร วันแรกที่ไปฝึกทหารใหม่สะบักต้นขาของท่านได้หลุดออกเ หมือนคนขาหัก ต้องรับการรักษาในโรงพยาบาลเป็นเวลาหลายเดือน หลังจากการฝึกทหารใหม่ 3 เดือนเสร็จสิ้นแล้วทุกคนจะต้องเข้าประจำกองต่างๆ หลวงพ่อท่านเล่าว่า ท่านแทบจะไม่ได้ทำอะไรเลย มีแต่คนคอยห่วงใยในความเป็นอยู่ กินนอนก็อยู่อย่างสบายเหมือนยังกับเจ้านาย มีคนคอยดูแล จนผู้คยในกรมทหาร จ.ลพบุรี เรียกท่านว่า หลวงตา ดังคำอวยพรของหลวงพ่อบุญยังให้ไว้ว่า จะได้ไปอยู่อย่างสบายๆ
    กลับมาอยู่กับท่านอาจารย์
    หลังจากที่รับใช้ชาติครบ 2 ปี ก็ปลดประจำการมาอยู่กับหลวงพ่อบุญยัง วัดหนองน้อย อยู่ปรนนิบัติและศึกษาหาความรู้จากหลวงพ่อบุญยัง พอมีญาติโยมเจ็บป่วยมาหาหลวงพ่อบุญยัง หลวงพ่อมหาโพธิ์ท่านจะช่วยเก็บยาสมุนไพรให้กับอาจารย ์ ท่านปรุงเป็นยารักษาญาติโยมอยู่บ่อยๆ ยามว่างอาจารย์ของท่านจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับวิชาต่าง ๆ ให้ฟัง เพื่อที่จะให้หลวงพ่อมหาโพธิ์สนใจอย่างไม่รู้ตัว อาทิเช่น วิชาเกี่ยวกับการฝึกธาตุทั้ง 4 ขึ้นมา อาจารย์ของท่านให้เอาโหลแก้วบรรจุน้ำเต็มตั้งไว้และใ ห้เอาขี้ผึ้งมามาปั้นเป็นก้อนกลมๆ ขนาดลูกพอประมาณ ใส่ลงในโหลแก้ว ขึ้ผึ้งจะลอยอยู่บนน้ำ และอาจารย์ท่านได้แสดงให้ดูก่อน โดยบังคับขี้ผึ้งให้ลอยและจมตามจิตบังคับ แล้วหลวงพ่อบุญยังก็พูดว่า ต้องใช้ความเพียรมากๆ ตั้งแต่นั้นมา หลวงพ่อมหาโพธิ์ก็ฝึกวิชาธาตุทั้ง 4 ด้วยความขยันหมั่นเพียรจนสามารถทำได้เหมือนกับอาจารย ์ของท่านเป็นที่ภาคภูมิใจของอาจารย์ยิ่งนัก
    สมัยที่หลวงพ่อบุญยังไปเรียนวิชากับหลวงปู่ศุข ที่วัดปากของมะขามเฒ่านั้น
    หลวงปู่ศุขได้ทดสอลความอดทนของท่านต่างๆ นานา ถ้าคนไม่มีความเพียรพยายามก็ต้องท้อเลิกไป แต่หลวงพ่อยุญยังท่านอดทนเพียรพยายามมาก แม้แต่กลางคืนหลวงปู่ศุขให้ไปฝึกวิชาที่โบสถ์ พอเดินออกไปก่อนจะถึงโบสถ์ฝนก็ตกน้ำท่วมถึงเอวต้องลุ ยน้ำไป จนเดินเลยโบสถ์กลับไปกลับมาตั้งหลายเที่ยวกว่าจะขึ้น โบสถ์ได้ วิชาต่างๆ ที่เรียนไปต้องฝึกให้สำเร็จและต้องแสดงต่อหน้าหลวงปู ่ศุขว่าทำได้แล้ว จึงจะขอเรียนวิชาอื่นๆ ต่อไปได้ เป็นระยะเวลาหลายปีทีเดียวที่หลวงปู่ศุขได้ถ่ยทอดวิช าต่างๆ ด้านพุทธคุณให้แก่หลวงพ่อบุญยัง และมอบคัมภีร์ไสยศาสตร์ทางพุทธคุณให้รักษาไว้สืบพระศ าสนาต่อไป จนตกมาถึงหลวงพ่อมหาโพธิ์ได้รับมอบคัมภีร์พุทธคุณจาก อาจารย์ของท่าน เป็นคัมภีร์ด้านพุทธคุณ ที่ประกอบด้วยอักขระ เลข ยันต์ต่างๆ ทั้งสูตรวิชาลบผงพุทธคุณในวิชา ปถมัง, อิทธิเจ, มหาราช, อิธิเจภาคพิศดาร หลวงพ่อมหาโพธิ์ได้ฝึกตามคัมภีร์จนเจนจบทุกวิชา การลบผงมหาราชจะต้องขึ้นต้นด้วยการตั้งชื่อนามให้ได้ 5 ชื่อ แล้วลบมาบังเกิดเป็น นะโมพุทธายะ จากนั้นก็ลบต่อไปเรื่อยๆ มาเป็นองค์พระ 5 องค์ มาเป็น มะอะอุ แล้วมาบังเกิดเป็นนะต่างๆ เป็นยันต์ต่างๆ จนถึงยันต์ครูองค์พระ และสิ้นสุดด้วยมหาสูญ, นิพพานสูญ, ทุกวิชาปถมัง, อิทธิเจ, มหาราช จะมีหลักเกณฑ์ต่างๆแนวเดียวกัน ทุกสูตรจะต้องมีตัวตั้งก่อเกิดขึ้นและนมัสการสูตรยัน ต์ต่างๆ ทุกขั้นตอนกว่าจะเสร็จสิ้น 1 กระดานการลบผงต้องใช้เวลาทั้งวัน ผงพุทธคุณต่างๆ จะเก็บไว้เพื่อนำผงมาผสมทำพระเครื่องต่างๆ หรือจะนำมาผสมแป้งเจิม
    ฝึกวิชา
    พระอาจารย์บุญยังได้พยายามถ่ายทอดวิชาต่างๆ ด้านพุทธคุณให้ ตอนแรก ๆ หลวงพ่อไม่สนใจ แต่เมื่ออยู่กับท่านนาน ๆ ไปหลวงพ่อเริ่มมีความสนใจขึ้น เห็นพระอาจารย์ท่านทำอะไร ๆ แปลกๆ ให้เห็นอยู่เรื่อย ๆ เช่น ทำควายธนูด้วยตอกสาน โดยสานมือเดียวแล้ววางไว้ ควายธนูก็มีการขยับเขยื้อนได้ เสกน้ำมันจนเดือดเหมือนน้ำร้อน ฟองเดือดขึ้นมา แต่เมื่อไปสัมผัสด้วยมือกลับไม่ร้อน ทำให้ท่านอยากจะเรียน พระอาจารย์ของหลวงพ่อก็ถ่ายทอดให้ทั้งคาถาปลุกเสก และวิธีฝึก
    วิชาเกราะเพชร
    วิชาหนึ่งที่ท่านชอบและฝึกมาตั้งแต่ต้น คือ ยันต์เกราเพชร หรือตาข่ายเพชร โดยหลวงพ่อบุญยังได้เล่าให้ท่านฟังว่าสมัยหลวงปู่ศุข ยังมีชีวิตอยู่ ท่านได้ลองวิชาเกราะเพชรกับพระะรูปหนึ่ง ที่แก่กล้าวิชาที่เดินทางผ่านวัดปากคลองมะขามเฒ่า โดยบอกหลวงปู่สุขว่าจะขี่ม้าพยนต์เข้ามาในโบสถ์ให้ดู หลวงปู่ศุขท่านได้เอาผ้ายันต์เกราะเพชรขึงไว้หน้าประ ตู ปรากฎว่าม้าพยนต์ไม่สามารถผ่านยันต์เกราะเพชรหรือตาข ่ายเพชรไปได้ พระรูปนั้นเมื่อแพ้วิชาของหลวงปู่ศุข ก็ได้เดินทางกลับไปจากวัดปากคลองมะขามเฒ่าเมื่อหลวงพ ่อมหาโพธิ์ได้ฟังจากหลวงพ่อบุญยังเล่าท่านจึงสนใจและ เล่าเรียนวิชาเกราะเพชรลงตระกรุด และผ้ายันต์เกราะเพชรมาตลอดอายุของท่าน
    การลงยันต์เกราะเพชร ต้องท่องสูตรคาภาพระอิติปิโสรัตนมาลา ๕๖ บาท ให้ได้จนขึ้นใจทั้งเดินหน้า และถอยหลังได้รวมทั้งบทปลีกย่อยอื่น ๆ อีกมากมาย ในการลงยันต์เกราะเพชร ท่านบอกว่ายันต์เกราะเพชร เป็นยันต์ที่ค่อนข้างยากผู้เรียกจะต้องมีความขยันหมั ่นเพียร กับความอดทน และการประสิทธิ์ประสาทจากครูบาอาจารย์ น้อยคนนักที่จะลงยันต์เกราะเพชรได้ บางคนมาขอเรียนเห็นพระคาถา ๕๖ บาท ก็ท้อแล้วไม่อยากจะท่องจำ ความเพียรพยายามไม่มี การลงยันต์ก็ต้องหายใจลงตามสูตรพระคาถา ๕๖ บาท ผู้ที่ฝึกฝนใหม่ ๆ ต้องใช้เวลาเรียนเกือบทั้งวันกว่าจะลงยันต์เสร็จ อย่างตัวของหลวงพ่อเองใช้เวลาประมาณ ๒ ชั่งโมง ถือว่าลงได้เร็วมากแล้วเพราะท่านฝึกมา ตั้งแต่อายุยังรุ่นอยู่
    ในสมัยก่อนยามว่าง ท่านมักลงตระกรุดเกราะเพชรและทำผงพุทธคุณเกราะเพชรทั ้งชนิดป้องกันตัว และถอนคุณถอนของคนที่ถูกผีเข้า ท่านจะเอาตะกรุดเกราะเพชรที่เป็นแผ่นแบบยังไม่ได้ม้ว นเป็นตะกรุด ตบหัวคนถูกผีเข้า ผีจะทรุดลง และออกจากตัวคนไข้ไปทันที ตะกรุดส่วนใหญ่ท่านจะใช้แผ่นทองแดงมาลงยันต์เกราะเพช ร ยกเว้นแผ่นถอนของท่านจะใช้แผ่นตะกั่ว ส่วนตะกรุดเนื้อเงินท่านจะลงให้เฉพาะกับศิษย์ใกล้ชิด เท่านั้น เกี่ยวกับประสบการณ์ในตะกรุดเกราะเพชร มี ส.ส.ท่านหนึ่งใน จ.ชันนาท ที่เคารพนับถือหลวงพ่อมากได้ขอตะกรุดท่านไปใช้พกติดต ัว ขณะหาเสียงถูกผู้ที่ปองร้ายใช้ระเบิดปาใส่ ปรากฏว่า ส.ส.ท่านนั้นไม่เป็นอะไรเลย

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    ให้บูชา 250 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ(ปิดรายการ)

    FB_IMG_1752236317518.jpg FB_IMG_1752236319817.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กรกฎาคม 2025 at 12:32
  3. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,380
    ค่าพลัง:
    +21,404
    FB_IMG_1752237524283.jpg FB_IMG_1752237527040.jpg

    เหรียญปืนไขว้รุ่นนี้
    เทหารประจำการอยู่ภาคใต้
    ถูกจ่อยิง ปืนไม่ออกครับ
    เหรียญรุ่น๓กงจักร(ปืนไขว้)
    ครูบาชัยยะวงศาพัฒนาออกวัดป่าจี้ ปี พ.ศ.๒๕๒๐
    จัดสร้างเพื่อหาปัจจัยสมทบทุนสร้างพระวิหารวัดป่าจี้ โดยคณะศรัทธาบ้านป่าจี้ได้ขออนุญาตและบารมีหลวงปู่ครูบาวงศ์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ได้จัดสร้างเหรียญรูปเหมือนและผ้ายันต์ มีวัตถุมงคล 3 แบบคือ
    1. เหรียญแฉกปืนไขว้ พัดพุดตาล หรือเหรียญกงจักร ขอบโดยรอบจะหยักเป็นมุมแหลม 16 หยัก เท่ากับอัตราโสฬสมงคล "พระเจ้าสิบหกพระองค์" หลังยันต์ราหู โดยถอดแบบจากเหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง นครปฐม พุทธคุณทางด้าน เมตตามหาอุด คงการพันชาตรี
    2. เหรียญใบโพธิ์ หลังยันต์แบบล้านนา พุทธคุณทางด้าน เมตตามหานิยม
    3. ผ้ายันต์ บูชานำลาภ สาระพัดกัน เมตตา โดยถอดแบบมาจากผ้ายันต์ของหลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม นครปฐม พุทธคุณทางด้าน เมตตามหาอุด คงการพันชาตรี เมตตามหานิยม นกคุ้มกันไฟ นางกวัก มหาลาภ
    สุดยอดคณาจารย์แห่งลุ่มน้ำลี้ วงศ์ หวัน ปัน เพชร ร่วมกันปลุกเสกอย่างเข้มขลัง
    1. ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา (ครูบาวงค์) วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม
    2. ครูบาหวัน วัดห้วยห้าง ทุ่งหัวช้าง
    3. ครูบาปัน (ท่านพระครูวิลาศคณาทร เจ้าคณะอำเภอลี้) วัดพวงคำ
    4. ครูบาเพชร วัดบ้านเเวนนาริน
    และได้นำเข้าพิธีที่วัดพระพุทธบาทขาวปี ศิษย์ครูบาศรีวิชัย ครูบาขาวปี และคณาจารย์ที่มาร่วมงานศพครูบาขาวปีร่วมปลุกเสกอีกหลายท่าน ของดีสุดยอด เหรียญประสบการณ์
    ครูบาชัยวงศ์ วัดพระบาทห้วยต้ม (ข้าวต้ม) อ.ลี้ จ.ลำพูน
    ท่านเป็นพระโพธิสัตว์ที่รู้ใจคน ถอดกายได้
    "... โดยมีผู้ถ่ายรูปเดี่ยวของท่าน แต่ปรากฏว่ารูปถ่ายที่ออกมา กลายเป็น ๒ องค์ คือองค์หนึ่งนั่ง อีกองค์หนึ่งยืน ท่านออกธุดงค์ตั้งแต่ยังหนุ่ม ..."
    ครูบาศรีวิชัย สิริวิชโย ซึ่งเป็นอาจารย์องค์แรกของท่าน เคยทำนายตอนที่ท่านยังเป็นเณรว่า ท่านจะเป็นผู้มาสร้างวัดพระพุทธบาทห้วยต้มแห่งนี้ นอกจากนั้นท่านยังเป็นลูกศิษย์ของครูบาพรหมจักร(พระอุปัชฌาย์ของท่าน)และครูบาอภิชัยขาวปี ที่มรณะแล้วร่างไม่เน่าเปื่อยอีกด้วย
    ท่านยังได้เรียนวิชาทางจิต จากตำราเก่าสมัยอยุธยาที่พระเก่งๆ ในสมัยโบราณนำมาซ่อนไว้ในถ้ำ เพื่อไม่ให้ตกไปอยู่ในมือพวกพม่า โดยเทวดามาบอกที่ซ่อนคัมภีร์นี้ เมื่อท่านฝึกสำเร็จแล้ว ท่านจึงนำเข้าไปเก็บรักษาไว้ในเจดีย์ที่วัด ท่านฉันเจและชอบฉันลูกเกาลัด
    ที่แปลกก็คือ ท่านชอบไปเข้าฝันคนทั่วไป เช่นเคยไปเข้าฝันบอกตัวยาแก้โรคกระเพาะให้ คนตายแล้วฟื้นเล่าว่า ได้ไปพบครูบาศรีวิชัย ท่านบอกให้มากราบครูบาวงศ์ เพราะท่านเป็นพระอริยะ และเทวดาที่วัดพระบาทห้วยต้มบอกวัดนี้ จะเป็น ๑ ใน ๓ วัด #ที่จะอยู่ได้จนครบ ๕,๐๐๐ ปี ในศาสนาของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน
    ที่วัด ยังมีรอยพระพุทธบาท ที่พระพุทธเจ้าได้ทรงมาประทับรอยไว้ เมื่อคราวที่เสด็จมาที่วัดแห่งนี้ ในครั้งนั้น นายพรานได้ทำข้าวต้มเนื้อกวาง ถวายแก่พระพุทธเจ้า แต่พระองค์ทรงฉันเฉพาะแต่ข้าวต้มเท่านั้น ไม่ทรงฉันเนื้อกวางที่ถวาย
    ทั้งนี้เพราะทรงทราบว่ากวาง
    ตัวนั้นเป็นหน่อเนื้อพุทธางกูร ซึ่งต่อมาก็คือครูบาชัยวงศ์นั่นเอง และเนื้อกวางนั้น ต่อมาได้กลายเป็นหิน ปัจจุบันก็ยังเก็บรักษาไว้ อยู่ที่วัดพระบาทห้วยต้ม
    ท่านครูบาวิจิตร มนูญโญ แห่งวัดกุเตอร์โกล ต.สามหมื่น อ.แม่ระมาด จ.ตาก ได้เล่าให้ฟังว่า เคยขึ้นเขาไปกับท่านครูบาชัยวงศ์ เพื่อไปกราบพระพุทธบาท "วังตวง" อำเภอแม่พริก ได้เห็นท่านครูบาชัยวงศ์ ได้เอาเท้าของท่านเหยียบลงบนก้อนหินที่บนเขานั้น แล้วก็บอกให้ท่านคอยดูนะ เมื่อท่านยกเท้าขึ้น ก็ได้ปรากฏรอยเท้า บนก้อนหินนั้นจริงๆ..."
    เนื้อหาบางส่วนจาก : หนังสือพระชัยวงศานุสสติ ครูบาชัยวงศาพัฒนาคือ อดีตพระฤๅษีวาสุเทพ โดย...ทวีวัฒน์ เติมฤทธิ์(อู๋)
    หลวงปู่ครูบาวงศ์ฯ เป็นสหธรรมิกองค์เอกองค์หนึ่งของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน(ฤาษีลิงดำ)ที่พวกเราเคารพรัก
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ได้กล่าวแก่ลูกศิษย์ครูบาวงศ์ฯ ว่า
    “พระดีแบบครูบาวงศ์ไม่มีอีกแล้ว หาได้ยาก…..พวกลูกมีบุญมาก และโชคดีที่มาพบพระระดับหลวงพ่อวงศ์ ซึ่งเป็นพระปฏิบัติดี มีคุณธรรมสูง หลวงพ่อได้อะไร หลวงพ่อวงศ์ก็ได้เช่นเดียวกัน ไม่ด้อยไปกว่ากันเลย…. อย่าเสียทีที่เกิดมามีบุญ ได้พบพระระดับหลวงพ่อวงศ์”

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างส่งครับ

    เหรียญครูบาชัยวงศ์ รุ่น๓ พ.ศ. ๒๕๒๐ สภาพผ่านการบูชา มากประสพการณ์

    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20250711_193431.jpg IMG_20250711_193516.jpg
     
  4. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,380
    ค่าพลัง:
    +21,404
    FB_IMG_1752238868144.jpg

    เครดิตข้อมูล และภาพจาก พี่ tongn005
    http://www.watkositaram.com/forum/index.php?topic=3638.0
    หลวงปู่เย็นเกิดปีเดียวกับหลวงพ่อปรง คือ พ.ศ.๒๔๔๗ ก่อนหลวงพ่อกวยหนึ่งปี รู้จักกับหลวงพ่อกวยพอประมาณ เเต่เรียกหลวงพ่อกวยว่า หลวงพี่กวย เพราะพรรษาบวชน้อยกว่า เคยเดินทางไปร่วมพิธีเสกพระกับหลวงพ่อกวยเป็นบางครั้ง นั่งรถโดยสารไปกันเอง
    ตามประวัติบวชเรียนเเล้วสึกมาใช้ชีวิตทางโลก จนตอนหลังกลับมาบวชอีกครั้ง อาจารย์เก่งๆที่ท่านเคยเรียนมา ล้วนเป็นสำนักเดียวกับหลวงพ่อกวย คือ หลวงพ่อศรี เเละหลวงพ่ออิ่ม
    วิชาที่ได้จากหลวงพ่ออิ่ม เช่นมนต์จินดามณี เเละวิชามือยาว เป็นต้น
    หลังจากจำพรรษาที่วัดกลางชูศรี ท่านได้นิมนต์หลวงปู่บุดดาซึ่งท่านนับถือมากมาเป็นเจ้าอาวาส ส่วนตัวท่านย้ายมาอยู่ที่วัดสระเปรียญ สมัยนั้นเป็นสำนักสงฆ์การเปรียญ มีพระจำพรรษาคือ หลวงตาชุ่มเเละลูกสาวซึ่งบวชเป็นเเม่ชี ชื่อเเม่ชีมณี หลวงปู่ได้บูรณะวัดเเละตั้งชื่อใหม่ว่าวัดสระเปรียญ
    วัตถุมงคลของหลวงปู่ ดีมากทางเเคล้วคลาดเเละเมตตาสูง หลวงปู่ใจดี ยิ้มเเย้มเเจ่มใส มีเมตตามากๆ เเต่ของทุกอย่าง หลวงปู่ไม่ค่อยเเจก เเต่จะเอาจำหน่ายเพื่อหาเงินเข้าวัด
    เหรียญรุ่นเเรก ออกที่วัดกลางชูศรี ราวๆปี ๒๕๒๐ มีพิมพ์ใหญ่เเละพิมพ์เล็ก
    เหรียญพิมพ์ใหญ่ จะเป็นเหรียญสองหน้า หลวงพ่อศรีเเละหลวงปู่เย็น เป็นเหรียญที่มีประสบการณ์มากเเละนิยมพอสมควร

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    เหรียญรุ่นแรกหลวงปู่เย็นวัดสระเปรียญพิมพ์ใหญ่
    ให้บูชา 400 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ(ปิดรายการ)

    IMG_20250711_195640.jpg IMG_20250711_195721.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กรกฎาคม 2025 at 15:14
  5. SIR2010

    SIR2010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    3,027
    ค่าพลัง:
    +5,726
    จองครับ
     
  6. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,380
    ค่าพลัง:
    +21,404
    เหรียญสุริยฉาย ราหูพ่าย วัดสุทัศน์ฯ กทม ปี 2538 **
    ** เหมาะสำหรับท่านที่ดวงกำลังถูกราหูเข้าแทรกแขวนแล้วกลับร้ายกลายเป็นดี เสริมอายุวัฒนะ หนุนดวง เสริมดวงชะตา เสริมโชคลาภ เอาชนะศัตรูและอุปสรรค
    ** เป็นเหรียญที่สร้างขึ้นโดยการคำนวณทางโหราศาสตร์จริง ๆ
    ** โดยวันที่ 24 ต.ค 2538 นั้น เป็นวันที่เมืองไทยเกิดเหตุการณ์สุริยุปราคาเต็มดวง ซึ่งในกรุงเทพฯ ก็สามารถเห็นปรากฏการณ์นี้ได้เช่นกัน ทางวัดได้เลือกเวลาในการประกอบพิธีปลุกเสกเหรียญนี้ในช่วงที่ราหูกำลังเข้า บดบังพระอาทิตย์เต็มดวงพอดี
    จึงนับว่าเหรียญนี้มีความขลัง มีพลัง และ ศักดิ์สิทธิ์มากในทางโหราศาสตร์ เพราะการที่จะเกิดสุริยุปราคาเต็มดวงนั้นนานหลายปีมากถึงจะมีขึ้นครั้งหนึ่ง และวันนั้นก็เป็นครั้งที่เมืองไทยเราสามารถมองเห็นปรากฎการณ์นี้ได้
    ด้านหน้าเหรียญเป็นรูปสุริยะเทพถือพระขรรค์ประทับอยู่บนศีรษะพระราหู ฉากเบื้องหลังเป็นรูปพระอาทิตย์ ในแต่ละแฉกของพระอาทิตย์ลงอักขระ เลขยันต์กำกับ
    ด้านหลังเป็นยันต์ดวง และระบุชื่อเหรียญไว้ที่ขอบนอก ตอกโค้ดด้านหน้าเหรียญ ….
    ** เป็นเหรียญที่สร้างขึ้นโดยการคำนวณทางโหราศาสตร์จริง ๆ
    .
    โดยมีอาจารย์ถนอม ศรหุนะเป็นเจ้าพิธี และอธิฐานจิตปลุกเสก โดยเกจิคณาจารย์ชื่อดังในยุคนั้นเช่น
    1.เจ้าคุณธงชัย วัดไตรมิตร กรุงเทพฯ
    2.หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา อยุธยา
    3.หลวงพ่อเก๋ วัดแม่น้ำ สมุทรสงคราม
    4.หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย อยุธยา
    5.หลวงพ่อฮวด วัดดอนโพธิ์ทอง สุพรรณบุรี
    6.หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน สิงห์บุรี
    7.หลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง อยุธยา
    8.หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก ประจวบคีรีขันธ์
    9.หลวงพ่อเกตุ วัดเกาะหลัก ประจวบคีรีขันธ์
    10.หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า ระยอง
    11.หลวงพ่อดี วัดพระรูป สุพรรณบุรี
    12.หลวงปู่หลิว วัดไร่แตงทอง นครปฐม
    13.หลวงพ่อยงยุทธ วัดเขาไม้แดง ชลบุรี
    14.หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม กาญจนบุรี
    15.หลวงปู่ทิม วัดพระขาว อยุธยา
    16.หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติ อยุธยา
    17.หลวงพ่อสมชาย วัดปริวาส กรุงเทพฯ
    18.พระอาจารย์ต๊ะ วัดช้าง นครนายก





    ดวงไม่ดี มีคนเกลียดชัง คราสเคราะห์เข้าแทรกต้องบูชา “เหรียญสุริยฉาย ราหูพ่าย” เหรียญราหูตามตำราการสร้างโบราณของวัดสุทัศน์ ปี 2538!!!


    เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าในประเทศไทยนั้นมีการเกิดสุริยคราสเต็มดวงครั้งที่ใหญ่ที่สุดคือเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2538 ดังนั้นในวันดังกล่าวพระเกจิอาจารย์ที่รู้จริงในวิชาการสร้าง การหนุนดวงคราสเคราะห์จากอิทธิพลของพระราหูจึงได้มีการสร้างวัตถุมงคล ปลกุเสกในวันดังกล่าวเพื่อให้เกิดความขลังให้ลูกศิษย์ ลูกหาได้คุ้มกันตัวซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเหรียญ “สุริยฉาย ราหูพ่าย” ของวัดสุทัศน์นั่นเอง

    เมื่อพูดถึงราหูหลายคนจะมุ่งเป้าไปยังวัดศรีษะทองโดยหารู้ไม่ว่าวัดสุทัศน์ใจกลางกรุงของเรานั้นก็มีตำราการสร้างการปลุกเสกพระราหูเช่นกันดังจะเห็นได้จากการที่หน้าบันพระอุโบสถของวัดนั้นมีรูปพระอาทิตย์และพระจันทร์อยู่โดยการปลุกเสกของทางวัดสุทัศน์นั้นจะแตกต่างจากวัดหรือตำราอื่นๆ ตรงที่จะมีการเชิญพระอาทิตย์หรือเทวดาพระอาทิตย์มาเป็นองค์อักขระเสกพร้อมกับราหูเพื่อใช้แสงแห่งพระสุริยะเทพขับเงามืดอันเป็นอวมงคลของพระราหูออกไปพร้อมกับดึงเอาคุณหรือส่วนดีของพระราหูเข้าประทับในเหรียญโดยต้องเสกตรงฤกษ์ที่พระราหูเริ่มกลืนกลินพระอาทิตย์และต้องจบตอนพระราหูคลายหมดพอดีจึงจะเข้มขลังซึ่งในวันดังกล่าวทางวัดสุทัศน์ได้ทำการปิดโบสถ์เสกตามฤกษ์ยามดังกล่าวโดยพระเกจิอาจารย์ชื่อดังนับสิบรูปจึงเป็นเหรียญดีที่คนดวงตก ดวงไม่ดี อยู่เฉยๆ ก็มีเรื่องควรหามาบูชา

    เงินบูชา 300 บาทค่าจัดส่งถึง 30 บาทครับ

    IMG_20250713_011759.jpg IMG_20250713_011831.jpg IMG_20250713_011729.jpg
     
  7. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,380
    ค่าพลัง:
    +21,404
    FB_IMG_1752365518700.jpg FB_IMG_1752365894951.jpg

    เหรียญงบน้ำอ้อยหล่อโบราณ เนื้อตะกั่วเงินยวง 200 ปีวัดสุทัศน์ปี 31
    :
    เมื่อครั้ง ปีพ.ศ. 2531 มีการปฏิสังขรณ์องค์พระพุทธรูปพระประธาน ได้พบชินตะกั่วเงินยวงโบราณซึ่งรองใต้ฐานองค์พระ ซึ่งได้ชำรุดตามกาลเวลาจำนวนมาก ตะกั่วโบราณที่ซึมซับพิธีมนตรา พุทธานุภาพ ธัมมานุภาพ สังฆานุภาพ มาอย่างยาวนาน ทางวัดสุทัศน์จึงได้นำเนื้อชินตะกั่วเงินยวงโบราณจากฐานองค์พระพุทธรูปทั้ง 2 องค์ มาเป็นมวลสารสำคัญร่วมกับชนวนพระกริ่งเก่าของวัดสุทัศน์หลายรุ่น, แร่เจ้าน้ำเงิน และเนื้อโลหะยอดพระสีมา ในการเทหล่อสร้าง "พระงบน้ำอ้อย" หล่อโบราณ เนื้อนวะโลหะและเนื้อชินตะกั่วขึ้นมา
    ที่เรียกกันว่าพระงบน้ำอ้อยนั้น มีเหตุมาจากรูปทรง กลมมีลักษณะคล้ายกับงบน้ำอ้อยนั่นเอง ตรงด้านหน้าเป็นรูปองค์พระพุทธปฏิมากร 10 องค์เรียงรายเป็นรูปวงกลม ซึ่งแทนความหมายถึง พระพุทธเจ้า 10 พระองค์ หรือที่เรียกกันว่า พระเจ้าสิบทัศน์ หรือหมายถึง พระเจ้า 10 ทิศ มีพระคาถาบทหนึ่งเรียกกันว่า "คาถาพระพุทธเจ้า 10 ทิศ" อันมีที่มาตามคติทางพระพุทธศาสนา ถือว่าในโลกนี้มีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นล่วงหน้ามาแล้วในอดีตหลาย พระองค์ จะต้องเข้าครองประจำอยู่ในทิศนั้นๆ ถ้ามีเหตุการณ์อันตรายเกิดขึ้น แก้ไขโดยใช้สวดมนต์ภาวนา เพื่อขอบารมีพุทธานุภาพช่วยปัดเป่าอุปัทวันตรายทั้งปวงให้สงบลง ฉะนั้นโบราณคณาจารย์จึงนิยมใช้คาถาพระพุทธเจ้า 10 ทิศสวดมนต์ เพื่อคุ้มกันอุบาทว์และเสนียดจัญไร ในอันจะก่อให้เกิดอันตรายที่มีมาแต่ทิศต่างๆ ดังนั้น พระงบน้ำอ้อย ที่สร้างขึ้นนั้นเพื่อคุ้มครองป้องภัยจากทิศต่างๆ
    ส่วนด้านหลังของพระงบน้ำอ้อยเป็นยันต์ "พุทธซ้อน"
    เป็นอีกหนึ่งพระเครื่องชุดหนึ่งของวัดสุทัศน์ที่สร้างขึ้นมาจากสุดยอดมวลสาร
    รายนามชื่อของพระเกจิอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสกมากมาย ณ พระอุโบสถวัดสุทัศน์ พระเกจิอาจารย์ ได้แก่
    -พระเทพเมธี (บุญนาค) วัดเศวตฉัตร
    -พระญาณโพธิ (เข็ม) วัดสุทัศน์
    -พระญาณ (ขวัญ)วัดอรุณราชวราราม
    -พระอุดมสังวรเถระ (อุตตมะ) วัดวังก์วิเวการาม
    -พระภาวนาวิสุทธิคุณ (จรัญ) วัดอัมพวัน
    -พระศรีวิสุทธิมุนี (ประมวล) วัดสุทัศน์ กรุงเทพฯ
    -พระครูพิบูลธรรมเวท (เปรื่อง) วัดหิรัญญาราม
    -พระอาจารย์โง่น วัดพระพุทธบาทเขารวก
    -พระครูวิชัยประสิทธิคุณ (เชิญ) วัดโคกทอง
    -พระครูพุทธสิริวัฒน์ (เมี้ยน) วัดโพธิ์กบเจา
    -พระครูศรีฉฬังคสังวร (เริ่ม) วัดจุกกระเฌอ
    -หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ
    -พระครูฐาปนกิจสุนทร (เปิ่น) วัดบางพระ
    -พระครูเกษมนวกิจ (เต้า) วัดเกาะวังไทร
    -พระครูกาญจนโนปมคุณ (ลำใย) วัดลาดหญ้า
    -พระครูสุนทรธรรมกิจ (หยอด) วัดแก้วเจริญ
    -พระครูสาทรพัฒนกิจ (ละมูล) วัดเสด็จ
    -พระครูวิเศษภัทรกิจ (ทองใบ) วัดสายไหม
    ฯลฯ
    คาถาพระเจ้าสิบชาติ
    "เต ชะ สุ เน จา นา มะ ภู วิ เวฯ" คาถาพระเจ้าสิบชาติ เสกข้าวกินทุกวัน ปัญญาดีเลิศกว่าคนทั้งหลาย ทำน้ำมนต์ให้หญิงมีครรภ์กิน ลูกเกิดมาปัญญาเฉลียวฉลาดดีนัก ปราศจากโรคาพยาธิ

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    ให้บูชา 450 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ(ปิดรายการ)

    IMG_20250713_023816.jpg IMG_20250713_023846.jpg IMG_20250713_023751.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กรกฎาคม 2025 at 15:07
  8. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,380
    ค่าพลัง:
    +21,404
    เหรียญพระนาคปรก สธ. ปี ๒๕๓๔ เนื่องในวโรกาสวันพระราชสมภพครบ๓รอบ
    สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
    (พระประจำวันเสาร์)
    เหรียญพระนาคปรก สธ. วัดบวรนิเวศวิหาร สร้างปี ๒๕๓๔ เนื้อนวโลหะ
    พิธีพุทธาภิเษก เมื่อวันจันทร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2534
    (ขึ้น 3 ค่ำเดือน 4) ปีมะเมีย ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร
    สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร
    (เจริญ สุวฑฺฒโน) สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 19 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ วัดบวรนิเวศวิหาร
    ทรงเป็นองค์ประธานในพิธี ทรงจุดเทียนชัย ในเวลา 13.29 น. ทรงอธิษฐานจิต

    และพระคณาจารย์ผู้ทรงคุณ นั่งปรกอธิษฐานจิตบริกรรมภาวนา
    พระเทพสารเวที วัดบวรนิเวศวิหาร
    พระราชญาณดิลก วัดราชประดิษฐฯ
    พระโพธิสังวรเถร วัดโพธิ์นิมิตร
    พระมหาถาวร จิตฺตถาวโร วัดปทุมวนาราม
    พระญาณโพธิ์ ( หลวงปู่เข็ม ) วัดสุทัศน์เทพวราราม
    พระราชสิงหคณาจารย์ (หลวงพ่อแพ) วัดพิกุลทอง
    พระภาวนาวิสุทธิคุณ (หลวงพ่อจรัล ) วัดอัมพวัน
    พระอุดมสังวรเถร (หลวงพ่ออุตตมะ) วัดวังก์วิเวการาม
    พระครูสุทรสุววณกิจ (หลวงปู่ดี) วัดพระรูป
    พระครูปลัดพรหม วัดขนอนเหนือ
    พระครูสุนทรธรรมกิจ (หลวงพ่อหยอด) วัดแก้วเจริญ
    พระครูเกษมธรรมนันท์ (หลวงพ่อแช่ม) วัดดอนยายหอม
    พระครูสันติวรญาณ (หลวงปู่สิม) วัดถ้ำผาปล่อง
    พระอาจารย์ไพบูลย์ สุมงฺคโล วัดอนาลโย
    พระภาวนาพิศาล (หลวงพ่อพุธ) วัดป่าสาลวัน
    พระอุดมสังวรวิสุทธิเถร (หลวงปู่ศรี) วัดป่าประชาคมวนาราม
    พระราชพุทธิรังษี ( หลวงพ่อวิเชียร ) วัดเครือวัลย์
    พระครูสุตพลวิจิตร( หลวงปู่คร่ำ ) วัดวังหว้า
    พระครูประภัสร์ธรรมคุณ วัดทรายขาว ฯลฯ
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    เหรียญพระนาคปรก สธ. ปี ๒๕๓๔ เนื้อนวโลหะ ให้บูชา 350 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ(ปิดรายการ)

    IMG_20250713_111657.jpg IMG_20250713_111829.jpg IMG_20250713_111613.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กรกฎาคม 2025 at 15:08
  9. SIR2010

    SIR2010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    3,027
    ค่าพลัง:
    +5,726
    จองครับ
     
  10. นายสุดจินดา

    นายสุดจินดา สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +34
    รับครับ
     
  11. นายสุดจินดา

    นายสุดจินดา สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +34
    รับครับ
     
  12. นายสุดจินดา

    นายสุดจินดา สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +34
    รับครับ
     
  13. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,380
    ค่าพลัง:
    +21,404


    พระผงรูปเหมือน หลวงปู่หลวง วัดป่าสำราญนิวาส จ.ลำปาง

    หลวงปู่หลวง กตปุญโญ เป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบครับ เป็นศิษย์ของหลวงปู่มั่น ไม่ค่อยได้พบเห็นวัตถุมงคลของท่านเท่าไรนัก องค์นี้เป็นพระผงสีขาวติดแผ่นตะกรุดใต้ฐานนั่ง เป็นวัตถุมงคลที่งานละเอียดมาก ทั้งหน้าตา และ จีวรที่ห่ม ดูเป็นมิติสวยงามมากๆ ใต้ฐานมีตราปั๊มลายเซนต์
    ขนาดองค์พระประมาณ 2.5 ซ.ม. * 3.5 ซ.ม.


    ชาติกำเนิดและชีวิตปฐมวัย
    นามเดิมชื่อ หลวง สอนวงศ์ษา บิดาชื่อนายสนธิ์ มารดาชื่อนางสียา เกิดเมื่อวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๖๔ ณ บ้านบัว ต.สว่าง อ.พรรณนานิคม จ.สกลนคร โดยเป็นพี่ชายคนโต
    เมื่ออายุได้ ๗-๘ ขวบ ได้ไปปรนนิบัติหลวงลุง ซึ่งเป็นพระมหานิกายอยู่วัดใกล้บ้าน พร้ามกับเรียนหนังสือไปด้วย จึงมีจิตใจโน้มเอียงมาทางพระพุทธศาสนา จนได้อ่านหนังสือ พระไตรสรณคมน์ ของพระอาจารย์สิงห์ ขนฺตยาคโม จึงมีความเลื่อมใสมากขึ้น

    ชีวิตสมณะ การแสวงหาธรรม และปฏิปทา
    เมื่ออายุ ๒๒ ปี จึงอุปสมบทในสังกัดมหานิกาย เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๕ ณ พัทธสีมา วัดศรีรัตนาราม อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ได้รับฉายาว่า ขนฺติพโล ท่านมีความขยันอดทน ทั้งปริยัติและปฏิบัติ จนสอบได้ นักธรรมชั้นโท ระยะนั้นหลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร กลับไปเยี่ยมบ้านเกิดพระหลวงจึงได้ไปกราบศึกษาข้อวัตร ปฏิปทา และอุปัฏฐากรับใช้อยู่หลายเดือน ครั้งหนึ่งท่านได้ไปกราบพระธาตุพนม และได้แวะกราบนมัสการหลวงปู่แว่น ธนปาโล ที่อำเภอเมืองสกลนคร จึงได้มีโอกาสพบหลวงปู่มั่น จนซาบซึ้งในรสพระธรรม จึงเดินทางแสวงหาครูบาอาจารย์ทางภาคเหนือ

    ได้แปรญัตติใหม่ เมื่อวันที่ ๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ ณ วัดเชตวัน อ.เมือง จ.ลำปาง โดยมีพระครูธรรมาภิวงค์ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงปู่แว่น ธนปาโล เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาใหม่ว่า กตปุญฺโญ ท่านได้ติดตามครูบาอาจารย์หลายองค์ เช่น หลวงปู่ชอบ ฐานสโม หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร หลวงปู่แว่น ธนปาโล ไปในหลายจังหวัดในเขตภาคเหนือ เพื่อฝึกปฏิบัติอบรมกัมมัฏฐานภาวนา จนได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าสำราญนิวาส ในปี พ.ศ. ๒๕๐๖ และในปีเดียวกันก็ได้เป็นเจ้าคณะตำบลอำเภอเกาะคา แม่ทะ ต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๐๙ ได้รับสมณศักดิ์เป็นพระครูการุณยธรรมนิวาส และปี พ.ศ. ๒๕๑๑ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงปู่หลวงได้ดูแลรักษา พัฒนาวัดป่าสำราญนิวาส ทั้งทางด้านศาสนสถานและศาสนวัตถุ เทศนาสั่งสอนญาติโยม หลวงปู่หลวง กตปุญฺโญ เป็นพระเถระผู้ใหญ่ที่มีปฏิปทาอันงดงามเปี่ยมล้นด้วยเมตตาธรรม เป็นที่เคารพเลื่อมใส ศรัทธาของสาธุชน

    หลวงปู่หลวง ได้ละสังขารด้วยอาการอันสงบ ในวันจันทร์ที่ ๑๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ เวลา ๐๑.๑๐ น. ซึ่งตรงกับวันปวารณาเข้าพรรษา ณ ห้องไอซียู โรงพยาบาลวิชัยยุทธ กรุงเทพ รวมสิริอายุได้ ๘๒ ปี ๔ เดือน ๑๕ วัน ๕๓ พรรษา (เฉพาะญัตติธรรมยุติกนิกาย

    ให้บูชา 170 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20250713_163718.jpg IMG_20250713_163811.jpg IMG_20250713_163642.jpg
     
  14. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,380
    ค่าพลัง:
    +21,404
    FB_IMG_1752404482348.jpg

    FB_IMG_1752402151057.jpg

    หลวงพ่อสี่เข่า วัดศาลาครืน เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร เป็นพระประธานในอุโบสถ ซึ่งสาเหตุที่หลวงพ่อสี่เข่ามีทั้งหมดสี่เข่าก็มีตำนานเหล่าไว้หลายแบบด้วยกัน บ้างก็ว่าสื่อถึงอริยสัจสี่ หรือบ้างก็ว่าหลวงพ่อสี่เข่าเป็นพี่น้องกับพระประธาน วัดโคนอน ซึ่งพระประธาน วัดโคนอนนั้นก็เที่ยวเก่ง จึงถูกตัดเข่าออกมา และหลวงพ่อสี่เข่า วัดศาลาครืนนำไปนั่งทับไว้
    ส่วนที่มาของชื่อวัดศาลาครืน ก็มีเล่าไว้หลายแบบเช่นกัน บ้างก็ว่าเคยมีเหตุการณ์ที่ศาลาการเปรียญและโบสถ์พังครืนลงมาจนเห็นองค์พระประธาน หรือบ้างก็ว่า เมื่อครั้งรัชกาลที่ ๓ ทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ และทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดราชโอรสาราม ได้มีกลุ่มช่างที่มาบูรณะวัดมาตั้งวงเหล้ากินที่ศาลาวัดศาลาครืน และมีการร้องรำทำเพลงกันอย่างสนุกสนานครื้นเครง จึงเป็นที่มาของชื่อวัด
    พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง หลวงพ่อสี่เข่า วัดศาลาครืน เขตจอมทอง #กรุงเทพมหานคร

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    เหรียญหลวงพ่อสี่เข่า วัดศาลาครืน
    หลวงปู่โต๊ะปลุกเสก เลี่ยมพลาสติคพร้อมบูชา

    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20250713_163402.jpg IMG_20250713_163443.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กรกฎาคม 2025 at 17:50

แชร์หน้านี้

Loading...